ลองเที่ยว Singapore ครั้งแรก 4 วัน 3 คืน | EP3 : วันที่ 2
EP1 : เตรียมตัว
EP2 : วันที่ 1
EP3 : วันที่ 2
EP4 : วันที่ 3
EP5 : วันที่ 4
EP6 : สรุป
เย้ๆ วันนี้เราจะไป Universal Studio Singapore (USS) กันนน ต้องบอกว่าอันนี้เป็นหนึ่งในเรื่องหลักเลยก็ว่าได้ ที่เรามาสิงคโปร์ 555555 เดี่ยวเรามาแชร์ให้ฟังกันครับ ว่าแผนที่เราวางครั้งนี้ เราวางแผนยังไงกันบ้าง
โดยการวางแผนครั้งนี้ เราเริ่มวางแผนก่อนไปประมาณ 1 อาทิตย์ครับ โดยเราเลือกหลีกเลี่ยงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ เป็นหลักเลย เพราะคิดว่าคนน่าจะเยอะแน่นอน พอตัดวันเสาร์-อาทิตย์ออก ก็จะเหลือแค่วันธรรมดาละ แล้วเราจะเลือกวันไหนดีละ??
โดยเราเลือกที่จะติดตามกลุ่ม Facebook ดูก่อน ว่าในช่วงที่เราไป มีคนไปกันเยอะไหม มีคนตั้งคำถาม หาเพื่อนไป ในอาทิตย์ที่เราไปเยอะแค่ไหน ไปกันวันไหน พร้อมทั้งดูสถิติการรอการเข้าเล่นเครื่องเล่นย้อนหลังมาประกอบการตัดสินใจครับ
เราเลยตัดสินใจไปวันอังคารกันครับ และตามที่บอกใน EP1 ก็คือ เราตัดสินใจไม่ซื้อ Express Pass เพราะจากการประเมินดูแล้วยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อ เราจะไปดูหน้างานก่อน ถ้าจำเป็นต้องซื้อ เราก็จะไปซื้อหน้างานเลยดีกว่า
เวลาที่จะไปก็สำคัญครับ โดยเราเลือกที่จะเดินทางแต่เช้าตรู่เลย เพื่อไปให้ถึง USS ก่อน 10 โมงกัน เพื่อที่จะได้เป็น Tier แรกที่จะได้เข้าไปยังสวนสนุก เพราะจากสถิติแล้ว ช่วงเช้านี่แหละ จะเพิ่มโอกาสที่เราจะได้เล่นเครื่องเล่นได้ครบ เพราะคนยังไม่เยอะครับ
ในวันนี้เราเลยตื่นเช้า ประมาณ 7 โมงเช้า เตรียมตัวเองให้เรียบร้อย พร้อมทานข้าวที่โรงแรมให้เรียบร้อย แล้วออกเดินทางกันครับ
โดยเราเลือกที่จะเดินทางด้วย MRT แล้วไปต่อ Sentosa Express เพื่อไปยังเกาะ Sentosa ครับ โดย MRT เราเลือกเดินทางจาก MRT City Hall โดยขึ้นสายสีเขียว ไปลง Outram Pack แล้วต่อสายสีม่วงไปลง HarbourFront ครับ แล้วไปขึ้น Sentosa Express ที่ Vivocity ชั้น L3 ครับ
การโดยสารทั้งหมด เราใช้บัตร YouTrip ในการโดยสารทั้งหมดนะครับ โดยเราสามารถแตะบัตร YouTrip ตอนขาเข้าสถานีได้เลย พอเดินทางถึงปลายทาง ก็สามารถแตะออกได้ปกติเลยครับ สะดวกมาก โดยเวลาที่เราแตะบัตร YouTrip เพื่อเข้า MRT หรือ Bus เป็นครั้งแรก ระบบจะตัดบัตร $0.01 SGD ก่อน เพื่อทดสอบว่าบัตรนี้สามารถหักได้จริงๆ แต่จะยังไม่เก็บค่าโดยสารเราเลยตอนที่เราแตะออกจากสถานีนะครับ มันต้องรอประมาณ 1 อาทิตย์ถึงจะมียอดเรียกเก็บจริงๆ มาเก็บเรา ใครที่งงๆว่าทำไมขึ้น MRT แล้วไม่เสียเงินหรอ ทำไมไม่มีการเรียกเก็บเงินเลย ที่จริงเขาเก็บนะครับ แต่ไม่ได้เก็บเลย อย่าแตะเพลินละครับ ฮ่าๆๆ 😺
ส่วนของ Sentosa Express จะเสียเงินเฉพาะขาไป $4.00 SGD นะครับ ขากลับจะสามารถนั่งกลับมายัง Vivocity ได้ฟรีครับ โดยของ Sentosa Express จะเรียกเก็บเราเลยครับ ไม่ต้องรอ 1 อาทิตย์ และ Sentosa Express ไม่รวมอยู่ใน Singapore Tourist Pass นะครับ จ่ายแยกนะครับ
ส่วนใครที่ต้องการเดินทางไปไหนมาไหน ต้องการเพื่อนนำทาง แน่นอนว่าเราใช้ Google Map กันอยู่แล้วครับ แต่มีอีก Application ที่น่าสนใจ และเป็นตัวช่วยที่ดีในการเดินทางครั้งนี้ นั่นก็คือ CityMapper ครับ ของดีเลยละครับ
เรามาถึง Universal Studio Singapore ช่วงเวลาประมาณ 9 โมงครับ ถือว่าเวลาดีมาก แล้วก็ตามคาดครับ คนน้อยมากๆ ไม่ผิดจากการคำนวนไปเยอะ แล้วก็ประมาณ 9:45 ทางสวนสนุกก็เปิดให้เข้าได้ก่อนเวลาครับ ปกติถ้าตามเวลาจะเปิด 10:00 เป๊ะๆ
และแน่นอน เพื่อให้เราเก็บเครื่องเล่นได้ครบ ให้มันคุ้มค่ากับการจ่ายเงินหน่อย เราก็ต้องวางแผนการเล่นกันหน่อยครับ ว่าเราจะเล่นอะไรก่อนอะไรหลัง และแน่นอนเราก็ให้ Claude.ai ช่วยแนะนำแผนการเล่นเครื่องเล่นให้ครับ
เราก็นำสิ่งที่ Claude.ai แนะนำ มาปรับนิดหน่อย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นครับ แล้วก็มีเครื่องเล่นบางอย่างที่ไม่อยากเล่น บางอย่างก็ปิดไปแล้ว
หลังจากที่เข้าไปยัง USS แล้ว เรามีแผนการเล่นเครื่องเล่นตามแบบฉบับของเรา ดังนี้
Battlestar Galactica : HUMAN
เปิดด้วยเครื่องเล่นหนักๆแต่เช้าครับ ใช้เวลาต่อคิวประมาณ 5 นาที น่าจะเป็นหนึ่งในเครื่องเล่นที่สุดโหดสุดมันส์เครื่องนึงใน USS ละ เป็นรถไฟเหาะที่มีลักษณะนั่งคู่ พื้นปิด
Battlestar Galactica : CYLON
ต่อด้วยเครื่องเล่นหนักๆเหมือนกันครับ อยู่ใกล้กันกับ Battlestar Galactica : HUMAN เลยครับ เอาเป็นว่า 2 เครื่องเล่นนี้เป็นเครื่องเล่นคู่กันเลยละ ใช้เวลารอคิวประมาณ 5 นาที เป็นเครื่องเล่นที่นี่จะโหดที่สุดละใน USS เป็นรถไฟเหาะที่มีลักษณะนั่งคู่ พื้นเปิดแบบห้อยขาลงไป เล่นเสร็จก็แอบขาอ่อนอยู่นะ 😃
Canopy Flyer
เป็นเครื่องเล่นในโซน Jurassic Park ใช้เวลาต่อคิวประมาณ 5 นาที เป็นเครื่องเล่นรถไฟเหาะที่ห้อยขาลงมาข้างล่าง พอจะให้ลุ้นๆได้นิดหน่อย เน้นการดูวิวแบบรอบทิศทาง ถือว่าเป็นการพักจากเครื่องเล่นหนักๆที่ผ่านมาได้ดี
Revenge of the Mummy
เดินย้อนกลับมาลองเครื่องเล่นที่หนักขึ้นมานิดนึงครับ เครื่องเล่นจะเป็นรถไฟเหาะในอาคาร นั่งได้แถวละ 4 ที่นั่ง ใช้เวลาต่อคิวประมาณ 5 นาที โดยรวมค่อนข้างโอเคครับ มีทั้งแสง สี เสียง โดยจำลองว่าเราเข้าไปผจญภัยในอียิปต์ ระหว่างเล่นก็จะมีการถ่ายรูประหว่างที่เราเล่นไปด้วย ถ้าใครอยากได้ สามารถลงมาซื้อได้ที่จุดต่อคิวของเครื่องเล่นได้
Jurassic Park Rapids Adventure
เดินกลับมาที่โซน Jurassic Park อีกครั้ง ที่ไม่เล่นให้เสร็จเลยตอนแรก เพราะรู้ว่า มันต้องเปียกแน่ๆ กลับไปเล่น Revenge of the Mummy ก่อน ที่จริงก่อนเล่นเครื่องนี้ แนะนำให้เอาถุงสำหรับหุ้มรองเท้ากับเสื้อฝนมาด้วยก็จะดีมากครับ เพราะเปียกแน่ๆ (ตอนที่ผมไปเล่น ไม่ได้เอาอะไรสักอย่างไป เปียกแบบซึมลึกเลยละครับ) หากมาซื้อตรงหน้างานราคาจะแพงมาก หรือจะลองใช้ Capsule เป่าแห้งทั้งตัวก็ได้ครับ แต่ราคาจะแพงมากเช่นกัน ใช้เวลารอเล่นเครื่องเล่นประมาณ 5 นาที โดยเครื่องเล่นจะเป็นแบบล่องแก่ง ให้เราเข้าไปอยู่ในสถาบันวิจัยด้านไดโนเสาร์ โดยเล่าเรื่องผ่านการล่องแก่งในทางน้ำไปเรื่อยๆ โดยรวมเปียกครับ 55555 🙁
Transformers The Ride: The Ultimate 3D Battle
เดินกลับมาโซนของ Transformers เป็นโซนที่ใช้เวลารอเล่น นานที่สุด เดินแล้วเดินอีกก็ไม่ถึงสักที 55555 ใช้เวลารอประมาณ 1 ชม 30 นาทีครับ แต่เนื่องจากเราเล่นเครื่องเล่นที่เราอยากเล่นมาหมดแล้ว ก็เลย โอเค รอได้ ไม่มีปัญหาอะไร เครื่องเล่นนี้จะเป็นเครื่องเล่นแบบ 4D จำลองเหมือนเราไปต่อสู้กับอยู่กับเหล่า Autobots ต่อสู้กับกลุ่ม Decepticons โดยรวมมันส์จริง ทั้งแสง สี เสียง คุ้มค่ากับการรอคิวครับ 😄
Sesame Street Spaghetti Space Chase
เดินย้อนกลับไปเล่นอะไรเบาๆบ้าง เจออะไรหนักๆมาทั้งวันละ เครื่องเล่นนี้จะเบาๆ เหมาะสำหรับเด็กๆ หรือผู้ใหญ่ที่ต้องการเบรคจากเครื่องเล่นหนักๆครับ โดยเครื่องเล่นนี้จะเป็นการนั่งรถไฟเพื่อทำความความรู้จักกับเหล่าครอบครัว Sesame Street ครับ ตอนไปเล่นก็ไม่มีคิวเลย เข้าปุ๊บ ได้เล่นบั๊ป
Puss In Boot’s Giant Journey
เนื่องจากเวลายังพอเหลือ เล่นเดินกลับไปที่โซน Far Far Away ก็มีเครื่องเล่นนึงที่น่าเล่นอีกอัน เป็นเครื่องเล่นระดับปานกลาง รอคิวประมาณ 15 นาทีครับ เป็นรถไฟเหาะเช่นกัน แต่ระดับความมันส์จะอยู่ในระบบปานกลาง เป็นการเล่าเรื่อง Puss in Boots ผ่านการนั่งรถไฟเหาะเช่นเดียวกันครับ
Water World Live Action Stunt Show
ตอนที่กำลังตัดสินใจจะกลับพอดี บังเอิญไปเห็นโชว์ของ Waterworld กำลังจะเริ่มพอดี เลยเอ่อแวะเข้าไปดูหน่อย คนไม่ได้เยอะมากครับ ในโชว์ก็จะเป็นการเล่าเรื่องแบบกระชับจากในภาพยนต์เลยครับ แต่สำหรับผมคนที่ไม่ได้ดูภาพยนต์มาก่อน ก็อาจจะงงๆ ไม่ค่อยอินไปหน่อย แต่พอกลับมาดูภาพยนต์ย้อนหลัง ก็ทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้นครับ
หลังจากนั้นก็เดินเล่นอยู่ในสวนสนุกสักพัก ลองไปดูพวก Canteen ต่างๆ เสียดายที่ Minion ยังไม่เปิดให้บริการ น่าจะต้องมาอีกสักรอบ
หลังจากเที่ยว USS เรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินทางกลับ โดยเราสามารถเดินทางด้วย Sentosa Express ได้กลับไปยัง Vivocity ได้ฟรีเลยครับ (จะบอกว่า Sentosa Express จะเก็บตังแค่ขาออกจาก Vivocity เท่านั้นนะครับ การโดยสารภายในเกาะ Sentosa สามารถเดินทางได้ฟรี รวมถึงขากลับไปยัง Vivocity ด้วยครับ)
หลังจากมาถึง Vivocity ใครที่อยากลอง Hay Tea ที่นี่ก็มีให้บริการอยู่นะครับ จะอยู่ชั้น L1 เยื่องๆกับ Shop ของ Adidas ครับ ไปลองกันได้เลย
หลังจากนั้นก็เราก็ตัดสินใจที่จะกลับโรงแรมกันเลย เพราะตอนนี้น่าจะไปไหนต่อไม่ไหวละ ทั้งเมื่อย ทั้งหิว (เราเลือกที่จะไม่กินข้าวเที่ยงในสวนสนุกเลย เพราะราคาค่อนข้างแพงไปหน่อย) โดยเราจะลองเดินทางโดยใช้ Bus เป็นครั้งแรกจากที่ Vivocity กลับไปยังโรงแรม ด้วยความช่วยเหลือจาก CityMapper
วิธีการขึ้นรถ Bus ของสิงคโปร์ ให้รอที่ป้ายรอรถตามปกติเหมือนบ้านเราเลยครับ แต่พอรถใกล้จะมาถึง เพื่อความชัวร์ว่ารถจะจอด ให้โบกครับ!! หลังจากนั้นตอนขึ้น ให้เอาบัตรเครดิตหรือบัตร Travel Card แตะที่เครื่อง 1 ครั้ง แล้วก็ปล่อยตัวปล่อยใจ พักผ่อนตามสบายครับ รอจนใกล้จะถึงสถานีปลายทาง ก่อนหน้า 1 สถานี ให้กดปุ่มจอดครับ เหมือนบ้านเราเลย แล้วพอถึงสถานีปลายทาง ก็อย่าลืมแตะที่เครื่องตอนลงอีก 1 ครั้งนะครับ
หลัวงจากนั้นเราก็กลับมาพักผ่อน พร้อมทั้งกินข้าวเย็นที่โรงแรม โดยที่ไม่ออกไปไหนละครับ สลบไปเลย 55555
สำหรับวันนี้ก็น่าจะประมาณนี้แหละครับ เตรียมพักผ่อนเพื่อจะได้ไปลุย Street food กันต่อในในเช้าวันถัดไปได้เต็มที่ใน EP4 : วันที่ 3 กันครับ 😸