แชร์ประสบการณ์เคลม Macbook Pro กับ Apple Store Iconsiam คือดีงามมากกก

เอาจริงๆไม่ได้เขียน Blog นานมากกกกกละ เอาเป็นว่าวันนี้มีเรื่องน่าประทับใจมาแชร์ให้ฟังกันนิดหน่อยครับ

ด้วยความที่ Macbook Pro Mid 2017 คู่ใจอายุประมาณ 1 ปีกว่าๆ มีอาการจอเป็นรอยคีย์บอร์ด + คีย์บอร์ดมีอาการปุ่มบางปุ่มกดติดบ้างไม่ติดบ้าง (ดีที่ตัวเองตัดสินใจซื้อ Apple Care เอาไว้ก่อนหมดประกัน เพราะว่าอุปกรณ์หลายตัวไม่สามารถถอดเปลี่ยนด้วยตัวเองได้เหมือน Model ก่อนๆ ประกอบกับข่าว Defect ของเครื่องนี่หนาหูมาก เลยต่อเอาไว้ก่อนไม่เสียหาย) ประกอบกับช่วงนี้ไม่ค่อยได้ใช้งานตัวเครื่องพอดี เลยถือโอกาสทดสอบการเคลมประกันกับ Apple  Store แห่งใหม่ในไทยพอดี

ปล. การเคลมตัว Macbook คุณไม่จำเป็นต้องเอากล่อง / สายชาร์ต / ที่ชาร์ต มานะครับ ยกมาเฉพาะตัว Macbook ได้เลย

ผมเดินทางมา Apple Store ที่ Iconsiam แบบ Walk-in โดยไม่ได้จองคิวล่วงหน้าเอาไว้ เพราะคิดว่าคิวของ Mac น่าจะรอไม่นาน ซึ่งพลาดมากๆ เพราะต้องรอคิวเกือบ 3 ชั่วโมง!! แม่เจ้า!! แต่เนื่องจากเป็นความผิดพลาดของตัวเอง ก็ต้องจำใจรอกันไปครับ (ผมไปถึง Store ประมาณ​บ่ายสองโมง ได้คิวประมาณ 5 โมงเย็น)

ใครจะไป จองคิวกันก่อนได้ตามลิงค์นี้เลยครับ

https://getsupport.apple.com/?caller=arshw&locale=th_TH&storeID=R728&lat=13.726822&long=100.511255

พอถึงคิว ให้เราเข้าไปถามพนักงานอีกที เพื่อ Check-in ครับ แล้วจะให้เรานั่งรอตรง Genius Bar เพื่อให้พนักงานเจ้าของเคสเดินมาหาเรา

เมื่อพนักงานเดินมาหาเรา ก็จะสอบถามถึงอาการเบื้องต้นและทำการตรวจเช็คเครื่องด้วยซอฟแวร์สแกนเครื่อง ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีครับสำหรับขั้นตอนนี้ ช่วงนี้พนักงานเจ้าของเคสก็จะชวนเราคุยเปรียบเสมือนดั่งเพื่อนที่ไม่เคยเจอกันมานานมากกกก ฮ่าๆๆๆ

หลังจากนั้น พนักงานจะชี้แจงค่าใช้จ่าย + สิ่งที่ต้องเปลี่ยนให้เราทราบ โดยในเคสของผม แทบจะต้องเปลี่ยน Top case หมดเลย โดยรายการจะประมาณนี้ครับ

  • ตัวจอ
  • Top Case ด้านหน้าที่เป็นด้านที่ติดกับ Keyboard
  • Keyboard
  • Battery

เนื่องจากการเปลี่ยน Keyboard ของเครื่องที่เป็น Model ใหม่ จะไม่สามารถเปลี่ยนเฉพาะตัว Keyboard ได้ กรณีตัว Keyboard มีปัญหา จำเป็นต้องเปลี่ยน Top Case ใหม่ทั้งหมด!!! ทำให้เราได้ Body ในส่วน Top case ตรง Keyboard + Battery เป็นของใหม่ทั้งหมด!!

เห็นราคาแทบลมจับ ขอบคุณ Apple Care มากๆที่ช่วยชีวิตไว้

หลังจากนั้น เมื่อเราตกลงจะซ่อม พนักงานก็จะบอกว่าจะต้องใช้เวลากี่วัน โดยในเคสของผมใช้เวลาประมาณ 7 วันทำการ แต่พอเอาจริงๆ ใช้เวลาแค่ 3 วันเท่านั้นครับ!

ผ่านไปประมาณ 5 วัน เนื่องจากไม่วางไปรับเครื่อง :(

ตอนมารับเครื่อง เราสามารถมาติดต่อที่โต๊ะโซนใกล้ๆ Genius Bar ครับ แจ้งชื่อและยื่นบัตรประชาชนให้กับพนักงานครับ อ่อ สำคัญมากๆ ตอนไปรับเครื่อง อย่าลืมนำบัตรประชาชนไปด้วยนะครับ ใช้แค่บัตรประชาชนเท่านั้นครับ สำหรับการรับเครื่อง หลังจากนั้นไม่นาน พนักงานก็เข้าไปเอาของคู่ใจของเรามา

เย้ๆๆๆ ลูกชายกลับมาแล้ววววววว

สภาพที่กลับมา ดูดีขึ้นมากกกกกกกก เนื่องจากผลพวงจากที่เปลี่ยน Top Case ใหม่ ทำให้รอยถลอกบริเวณจอและตัวเครื่องนั้นหายไป!!! เปรียบดั่งได้เครื่องใหม่กันเลยทีเดียว

ระหว่างรอเครื่อง + ตรวจเช็คเครื่อง พนักงาน Apple Store ก็ชวนคุยเปรียบดั่งเพื่อนเหมือนเดิม + แนะนำการตรวจเช็คเครื่องไปด้วย ถือว่าดีงามมากๆเลยทีเดียว

บทเรียนครั้งนี้ทำให้รู้เลยว่า อย่าลืมต่อ Apple Care นะครับ 8 พันกว่าบาท เคลมได้ยาวอีก 2 ปีเลยนะ จะบอกให้!